NEWS & INNOVATION

ตู้ควบคุมไฟฟ้าถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราสามารถเลือกมาตรฐานที่เราต้องการได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่สำคัญคือต้องยกเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

                  ถีงแม้ว่าในเรื่องของการออกแบบและวางระบบไฟฟ้าภายในบ้าน จะเป็นเรื่องที่เรายกให้เป็นหน้าที่หลักของช่างไฟฟ้าหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแล แต่ก็มีอยู่หลายเรื่องเช่นกันที่เจ้าของบ้านอย่างเราก็สามารถทำเองได้ อย่างเช่นในการเลือกตู้ควบคุมไฟฟ้าด้วยตัวเอง เพื่อความปลอดภัยและสามารถช่วยให้ได้อุปกรณ์ที่ตรงตามความต้องการใช้งานของคนในบ้านมากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นการเลือกตู้ควบคุมไฟฟ้าด้วยตัวเอง ยังช่วยให้เราได้ประหยัดแถมได้คุณภาพของงานที่ตรงใจอีกด้วย

ทำความเข้าใจถึงระบบไฟก่อนตัดสินใจซื้อตู้ควบคุมไฟฟ้า

                  ประการแรกก่อนที่คุณเจ้าของบ้านจะทำการเลือกซื้อตู้ควบคุมไฟฟ้าก็จะต้องพิจารณาถึงแบบไฟฟ้าของบ้านเสียก่อน เพราะโหลดต่าง ๆ ของระบบไฟภายในบ้านจะต้องมีการคำนวนมาเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่คำนวนก็จะเป็นวิศวกรประจำโครงการเป็นผู้ออกแบบ แต่หากเป็นบ้านสร้างเอง เราสามารถถามจากช่างได้ว่าโหลดไฟฟ้าของเราอยู่ที่เท่าไร จากนั้นเราจะสามารถเลือกซื้อตู้ควมคุมหรือคอนซูมเมอร์ยูนิทจากแบบไฟฟ้าได้ โดยเริ่มง่าย ๆ จาก การดูจำนวนช่องของตู้ ซึ่งก็จะมีหลากหลายมาก ๆ ตามแบรนด์แต่ละยี่ห้อ ตามมาตราฐานก็จะมีตั้งแต่ 4-20 ช่อง โดยเราสามารถเลือกได้ตามจำนวนโหลดและการใช้งานในพื้นที่แต่ละส่วนได้ ที่สำคัญก็คืออย่าลืมเลือกเผื่อพื้นที่ส่วนต่อขยายในอนาคตเอาไว้ด้วย

เลือกตู้ควบคุมไฟฟ้าต้องพิจารณาให้ครบทุกปัจจัย

                  สำหรับปัจจัยแรกในการเลือกซื้อตู้ควบคุมไฟฟ้าก็คือ การดูที่เมนเบรกเกอร์ ซึ่งที่บ้านเราจะมีแบบที่นิยมอยู่ 2 แบบ ในแบบแรกคือ MCB คือ เมนเบรกเกอร์ที่มีเครื่องตัดไฟในตัว โดยจะทำการตัดกระแสไฟภายในบ้านทั้งระบบทันทีเมื่อมีไฟฟ้าเกิดลัดวงจรหรือไฟดูดไม่ว่าจุดไหน
และอีกแบบคือRCBO เป็นการติดตั้งเฉพาะจุดย่อยที่สามารถเลือกได้ว่าต้องการจะให้ไฟตัดจุดไหน อย่างเครื่องทำน้ำอุ่นหรือเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความต้องการ 
อีกปัจจัยต่อมาก็คือการคำนึงถึงความยากง่ายในการหาซื้ออุปกรณ์มาเปลี่ยน เพราะอุปกรณ์เหล่านี้จะมีข้อกำหนดเรื่องอายุการใช้งานตามมาตรฐาน และเราเองก็มีหน้าที่ที่จะต้องไปหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยน อย่างนั้นแล้วจึงควรเลือกอุปกรณ์ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย จะได้ไม่ต้องลำบากไปหามาเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดยกตู้

               และที่สำคัญอีกข้อเลยก็คือห้ามลืมเด็ดขาดก็คือ เรื่องมาตรฐานของอุปกรณ์ตู้ควบคุมไฟฟ้าซึ่งแต่ละอุปกรณ์ก็จะมีการกำหนดมาตรฐานกำกับเอาไว้
โดยเราสามารถสังเกตได้ที่ตรากำกับมาตรฐานที่ตัวอุปกรณ์ ทั้งมาตรฐาน มอก. และเลข IEC ถ้าทั้งหมดนี้มีครบและตรงถูกต้อง เราก็สามารถมั่นใจในคุณภาพของสินค้าได้แล้ว และอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือพยายามอย่าอยากประหยัดมาก เพราะสินค้าแบบนี้ราคาที่สูงมักจะมาพร้อมมาตรฐานที่ดีเสมอ