ทำเองได้ไม่ยาก...วิธีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน พร้อมวิธีแก้ไขหากเกิดปัญหา
November 19th, 2019
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าอาจดูเป็นเรื่องยากและวุ่นวาย แต่ก็ถือเป็นหน้าที่หนึ่งของเจ้าของบ้าน ที่จะต้องรู้วิธีการตรวจสอบในเบื้องต้นเอาไว้ด้วย
ระบบงานต่าง ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า จัดว่าเป็นหนึ่งประเภทงานที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนและยุ่งยากมากพอสมควร คุณเจ้าของบ้านหลายคนเลยตัดสินใจเลือกที่จะให้งานนี้เป็นหน้าที่ของช่างมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญไปเลย แต่ด้วยการที่เราเองซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าของบ้าน ก็ควรที่จะมีความรู้เรื่องการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเอาไว้ด้วย เพราะเจ้าของบ้านคือคนที่อยู่กับบ้านมากที่สุด และการดูแลตรวจสอบระบบก็จะช่วยให้บ้านมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย และการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนคิด
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าง่าย ๆ เริ่มที่มิเตอร์
จุดเริ่มต้นจุดแรกที่เราควรจะทำตรวจสอบระบบไฟฟ้าเลยก็คือมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้าน ส่วนใหญ่แล้วถ้าบ้านของคุณไม่ใช่โครงการหรือคอนโดก็จะสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ขั้นตอนก็คือให้ปิดสวิตช์ไฟภายในบ้านทุกจุด รวมถึงดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด แล้วกลับไปดูที่มิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้านว่ามีการเคลื่อนไหวของกระแสไฟหรือไม่ ถ้ามีแสดงว่าอาจเกิดไฟรั่ว จากนั้นให้ไปดูที่เครื่องตัดไฟว่ายังทำงานเป็นปกติดีหรือเปล่า หากพบว่ามีข้อผิดพลาดในการตัดไฟให้เรียกช่างมาแก้ไขให้ทันทีอย่างเร็วที่สุด
จากนั้นมาต่อกันที่การตรวจสอบสวิตช์ไฟหลักว่ายังทำงานเป็นปกติดีหรือเปล่า สิ่งที่เราต้องระวังให้มากที่สุดก็คือเรื่องของมดและแมลงที่ชอบเข้าไปทำรังในนั้น หากพบเจอก็ให้รีบจัดการแล้วตรวจดูว่ามีอุปกรณ์ไรบ้างที่เสียหาย ถ้ามีก็ให้เปลี่ยนโดยด่วน
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในจุดที่มีความสำคัญ
นอกเหนือจากมิเตอร์ไฟฟ้าและสวิตช์ไฟหลักที่เราต้องตรวจสอบแล้ว การตรวจสอบระบบไฟฟ้าก็ยังจะต้องดูในส่วนของจุดเล็กน้อยต่าง ๆ ด้วย อย่างเช่นในส่วนของสายไฟฟ้าที่เดินอยู่ภายในบ้านของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายไฟที่เดินบนฝ้าเพดาน ซึ่งหากในตอนที่เดินสายไฟครั้งแรกไม่ได้มีการหุ้มสายด้วยท่อร้อยสายไฟก็ยิ่งต้องคอยดูมาเป็นพิเศษ เพราะสายจะมีอายุการใช้งานมานาน แถมยังเสี่ยงต่อการถูกหนูและแมลงกัดแทะจนสายขาดได้ รวมไปถึงการตรวจสอบปลั๊กไฟและเต้ารับว่ายังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เป็นปกติหรือเปล่า โดยการใช้ไขควงตรวจวัดไฟหรือหลอดวัดไฟดูว่าไฟที่หลอดสว่างติดเป็นปกติหรือไม่
หลังจากทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในส่วนของระบบที่กล่าวมาทั้งหมดว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีแล้ว ก็อย่าลืมมาตรวจดูอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน ว่ายังคงใช้งานได้ตามปกติและต้องไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งทั้งหมดนั้นเราควรหมั่นดูแลและมีการตรวจสอบเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคนในบ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย