PRODUCT GUIDE

การเลือกโคมไฟตกแต่งบ้านนั้น เจ้าของบ้านต้องคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งในเรื่องของสไตล์และดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงเรื่องรูปแบบของแสงสว่างด้วย
                  
โคมไฟตกแต่งบ้านคือหนึ่งไอเทมที่มีความสำคัญกับบ้านและที่อยู่อาศัย ทั้งในเรื่องของความสวยงามและประโยชน์ในการใช้สอย ด้วยเพราะความผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์กับแสงสว่าง ที่โคมไฟแต่ละแบบให้ความแตกต่างที่ไม่เหมือนกัน บวกเข้ากับความชอบของตัวเจ้าของบ้านเองที่สามารถสร้างสรรค์ความสวยงาม ที่เป็นแบบฉบับของตัวเองขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าบ้านในโครงการต่าง ๆ จะมีรูปลักษณ์และโครงสร้าง สีสัน ที่คล้ายกัน แต่เราก็สามารถใช้โคมไฟตกแต่งบ้านมาสร้างที่อยู่ในสไตล์ตามฉบับของเราเองได้อย่างไม่ยาก

เลือกโคมไฟตกแต่งบ้านให้เป็น ช่วยให้ห้องสวยได้อย่างใจ

                  ประการสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกโคมไฟตกแต่งบ้านที่ทั้งสวยถูกใจ และเหมาะสมกับบ้านของเรานั่นก็คือ การทำความเข้าใจถึงความเข้ากันได้และความเหมาะสมของโคมไฟในสไตล์ต่าง ๆ กับพื้นที่ของห้อง หรือบริเวณนั้น ๆ 
อันดับแรกคือการพิจารณาถึงขนาดความกว้าง สูง และยาวของห้องก่อน จะช่วยให้เราสามารถเลือกประเภทและขนาดของหลอดในโคมไฟได้ รวมไปถึงการคำนึงว่า ณ บริเวณพื้นที่นั้น เราต้องการที่จะเอาไว้ใช้ทำอะไร อย่างเช่นว่าหากในห้องครัวมีการจัดวางโต๊ะอาหารเอาไว้ โคมไฟที่เลือกก็อาจใช้เป็นโคมไฟแขวน โดยจัดให้อยู่สูงกว่าโต๊ะประมาณ 80 – 100 เซนติเมตร และขนาดของโคมก็ไม่ควรที่จะใหญ่เกินโต๊ะอาหาร แต่ก็ไม่ควรเล็กเกินครึ่งหนึ่งของโต๊ะ เป็นต้น

ทำความเข้าใจเรื่องค่าของแสงก่อนตัดสินใจเลือกโคมไฟตกแต่งบ้าน

                  นอกเหนือจากแบบและสไตล์ของโคมไฟตกแต่งบ้านที่เราชื่นชอบจะเป็นสิ่งที่กำหนดความสวยงามของบ้านแล้ว แสงที่ได้จากโคมไฟเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งเจ้าของบ้านหลายคนอาจมองข้ามไป จนทำให้โคมไฟสวย ๆ กลายเป็นของประดับที่ไม่อยากเปิดใช้ไปเลย โดยประเด็นแรกที่เราต้องทำความเข้าใจก็คือเรื่องโทนของแสง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 แบบหลักคือ 
Warm White ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแต่จะทำให้สีในห้องเพี้ยนได้
Cool White แสงโทนขาวเหมาะกับห้องทำงาน 
และ Daylight แสงที่คล้ายกับแสงตอนกลางวันมากที่สุด ทำให้ค่าแสงและสีในห้องไม่เพี้ยนไป 
ซึ่งในเรื่องของค่าและโทนของแสงนี้เราสามารถนำไปปรับใช้กับรูปแบบการใช้งานของห้องได้

                  นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีในส่วนของค่าความสว่างที่แต่ละห้องจะต้องการระดับความสว่างของโคมไฟตกแต่งบ้านที่แตกต่างกัน โดยเราสามารถขอคำปรึกษาเรื่องการออกแบบระดับแสงไฟได้จากผู้เชี่ยวชาญ หรือหากพบว่าค่าความสว่างในห้องมีมากหรือน้อยเกินไป ก็สามารถลองเปลี่ยนหลอดไฟของโคมไฟใหม่ดูได้ตามความต้องการ หรือเลือกใช้การติดตั้งสวิตซ์ควบคุมไฟเพื่อใช้ในการปรับค่าความสว่างเป็นลูกเล่นเพิ่มเติมก็ย่อมได้
 

วิธีเดินสายไฟในบ้านสามารถทำด้วยตัวเองได้ไม่ยาก หากเจ้าของบ้านรู้ถึงหลักการและขั้นตอนในการเดินสายไฟ และการเตรียมตัวที่ถูกต้อง

                  งานที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในและภายนอกที่อยู่อาศัย เป็นงานที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของช่างผู้ชำนาญงาน หรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าให้กับบ้านทั้งหลัง แต่ถ้าหากว่าเจ้าของบ้านเองนั้นต้องการที่จะเดินสายไฟเองเพื่อต่อขยายไฟฟ้าไปใช้ในจุดเล็ก ๆ ของบ้าน จะสามารถทำได้หรือไม่ แล้วมีวิธีเดินสายไฟในบ้านอย่างไร เพราะด้วยการเดินสายไฟช่างดูเป็นงานที่มีขั้นตอนเยอะแยะมากมาย แต่ด้วยวิธีเดินสายไฟในบ้านที่เรานำมาบอกคุณเจ้าของบ้านกันนี้จะช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับเริ่มวิธีเดินสายไฟในบ้าน

                  ด้วยความที่งานที่เกี่ยวกับไฟฟ้าเป็นอะไรที่มีความเสี่ยงและต้องอาศัยการวางแผนที่ดีวิธีเดินสายไฟในบ้านในขั้นตอนแนะนำนี้ก็จะเป็นขั้นตอนของการเตรียมความพร้อมในการเดินสายไฟ อันดับแรกเราต้องมาดูกันว่าจุดที่เราต้องการต่อไฟไปนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร อยู่ตรงจุดไหนของบริเวณบ้าน ถ้าหากเป็นพื้นที่ที่สามารถเจาะผนังเพื่อฝังท่อสายไฟได้ก็ควรทำเพื่อป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ หรือหากทำไม่ได้ก็ต้องเลือกใช้วิธีการเดินลอยแต่ให้สายไฟอยู่ในท่อแทน หลังจากวางแผนรูปแบบการเดินสายไฟได้แล้ว เราก็มาลองดูว่าในช่องของตู้ควบคุมไฟหลักในบ้านมีช่องจุดเชื่อมต่อเหลืออยู่หรือไม่ หากไม่ก็ให้เลือกเชื่อมกับจุดที่อยู่ใกล้กันหรือมีรูปแบบการใช้งานที่ไม่กระทบกับกำลังไฟ เป็นต้น

เริ่มขั้นตอนวิธีเดินสายไฟในบ้านแบบมืออาชีพ

                  อันดับแรกของวิธีเดินสายไฟในบ้านก็คือการวัดขนาดพื้นที่หรือระยะห่างจากตู้ควบคุมไฟ หรือจุดเชื่อมต่อหลัก จะทำให้เราได้ระยะสายไฟและท่อเดินอย่างคร่าว ๆ เพื่อเอาไปใช้ในการซื้ออุปกรณ์ จากนั้นก็เริ่มทำการเคลียร์พื้นที่เดินสายไฟให้สะอาดเพื่อความพร้อมในการทำงาน แล้วก็ทำการสับสวิตซ์ไฟหลักลงให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย แล้วก็สามารถเริ่มเดินสายไฟได้ทันที หากในกรณีที่สายยาวไม่พอควรหลีกเลี่ยงการต่อสายเพื่อเพิ่มความยาว เพราะในตลอดแนวท่อควรใช้สายเดียวกันไปตลอดแนวเพื่อความปลอดภัย หากจะมีจุดที่จะต้องเชื่อมต่อสายไฟควรกำหนดจุดเชื่อมและติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสม หลังจากที่เดินสายไฟทั้งหมดและทำการต่อพ่วงเข้ากับเต้ารับเรียบร้อย ก็ทำการเก็บอุปกรณ์ เคลียร์พื้นที่ จากนั้นก็สับสวิตซ์ไฟขึ้น แล้วใช้ไขควงเช็คไฟทำการตรวจสอบดูถ้าไฟติดก็เป็นอันเสร็จพิธี

                  สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาดสำหรับหลักของวิธีเดินสายไฟในบ้านก็คือเรื่องของความปลอดภัย ผู้ที่เดินสายไฟต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนทุกครั้งว่าไฟถูกตัดแล้วจึงเริ่มลงมือ แล้วในขณะที่เดินสายจะต้องไม่รีบร้อนจนเกินไปเพราะจะทำให้งานออกมาไม่ดี จะเสียทั้งเวลาแก้ไขแถมยังมีความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย

การเลือกซื้อรางหลอดไฟควรเลือกให้เหมาะกับพื้นที่การใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ พร้อมกับการติดตั้งที่ต้องพิจารณาถึงพื้นที่และการปฏิบัติให้อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัย

                  ไม่ว่าบ้านของคุณเจ้าของบ้านทุกคนจะเป็นบ้านในลักษณะไหน ทั้งที่เป็นบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรร หรือจะเป็นบ้านสร้างเดี่ยวที่คุณเป็นคนเลือกแบบและคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งก็จะต้องมีการเปลี่ยนหรือเลือกติดตั้งรางหลอดไฟไว้ให้แสงสว่างตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน เพิ่มสำหรับส่วนขยายและปรับปรุงตามความต้องการของเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรางหลอดไฟก็จะมีหลายขนาดและหลายยี่ห้อ แล้วเราจะมีวิธีในการเลือกกับเทคนิคการติดตั้งอย่างไร ไปดูกัน

เลือกซื้อรางหลอดไฟให้ตรงตามความต้องการทำอย่างไร

                  ก่อนที่เราจะออกไปเลือกซื้อรางหลอดไฟมาติดตั้งใหม่ สิ่งแรกที่เราจะต้องดูเลยก็คือ พื้นที่สำหรับการติด โดยพิจารณาว่าขนาดของห้องหรือบริเวณนั้น ๆ มีขนาดเท่าไร ต้องการแสงสว่างมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากเป็นการเปลี่ยนรางหลอดใหม่แทนที่ของเดิม ซึ่งตัวผู้อยู่อาศัยรู้สึกโอเคกับแสงสว่างเท่าเดิม ก็สามารถที่จะเลือกขนาดรางเท่าเดิมได้เลย หรือถ้าหากเป็นการติดรางบนพื้นที่ใหม่ ก็ให้พิจารณาจากขนาดของห้องที่มีความใกล้เคียงกันได้ และถ้าหากถามว่ารางหลอดไฟแบบไหนถึงจะดี ในตอนนี้รางที่เราแนะนำจะเป็นรางที่ใช้กับหลอด LED ที่ให้แสงสว่างที่มาก ความร้อนน้อย อายุการใช้งานที่นาน แถมยังประหยัดไฟ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับรูปแบบและความต้องการในการใช้งานของผู้อยู่ด้วย

เทคนิควิธีการติดตั้งรางหลอดไฟอย่างมืออาชีพ

                  สำหรับเทคนิคแรกเริ่มกับการติดตั้งรางหลอดไฟ เราจะต้องดูว่าเพดานของบ้านทำมาจากวัสดุอะไร สำหรับการติดตั้งใหม่ให้เลือกใช้อุปกรณ์เจาะฝ้าที่เหมาะสมเพื่อความสะดวกและป้องกันความเสียหาย จากนั้นให้ฝังพุกสำหรับผ้าเพดานเพื่อเสริมความแข็งแรง แต่หากเป็นกรณีของการเปลี่ยนรางหลอดไฟแทนที่ของเก่า ให้เราทำการถอดรางเก่าออกก่อนจากนั้นจึงค่อยดูว่ารอยเจาะฝ้าเดิมยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่หรือเปล่า ถ้าหากไม่สมบูรณ์ให้ทำการเปลี่ยนฝ้าใหม่หรืออุดรูเดิมด้วยวัสดุที่เหมาะสม จากนั้นให้ทำการเจาะใหม่อีกครั้งเพื่อทำการยึด เทคนิคสำคัญก็คือการเลือกวัสดุที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานเหมาะกับสภาพของงานที่ทำ และที่สำคัญก็คือให้ยึดทุกจุดตามที่รางหลอดได้กำหนดจุดยึดมาให้เราแล้ว

                  ด้วยวิธีการเลือกและเทคนิคการติดตั้งรางหลอดไฟนี้ เราก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่างานที่ออกมาจะสมบูรณ์และได้มาตรฐานใกล้เคียงกับช่างมืออาชีพมาทำเองเลย แต่ถ้าหากว่าเจ้าของบ้านคนไหนยังรู้สึกว่าไม่สันทัดก็สามารถที่จะเรียกขอใช้บริการจากช่างมืออาชีพที่ไว้วางใจได้เช่นกัน และอีกอย่างที่สำคัญคือการเลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์จากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและอายุการใช้งานที่คุ้มค่า